อุบัติเหตุด้านสารเคมีอันตราย
อีกแล้วโรงงานสารเคมีรั่วคราวนี้ที่ปราจีนบุรี ทำหน่วยงานพื้นที่เร่งอพยพประชาชน
ปราจีนบุรี - อีกแล้ว! โรงงานสารเคมีรั่ว คราวนี้ที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ผู้นำชุมชนต้องเร่งอพยพประชาชนกว่า 1,200 คน หลังมีกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ชาวบ้านบางรายเกิดอาการแน่นหน้าอก อาเจียน วิงเวียนศีรษะหลังสูดดมสารเคมี บางรายถึงขั้นนำตัวส่งโรงพยาบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (18 ต.ค.) ได้เกิดเสียงระเบิดเกิดขึ้นภายโรงงานผลิตสารเคมีภัณฑ์ในพื้นที่บ้านหัวโล่ ม.4 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ใกล้แหล่งชุมชนที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่กว่า 1,200 ราย นอกจากนั้น ยังมีกลุ่มควันสีขาวลอยฟุ้งขึ้นสู่ท้องฟ้า ส่งกลิ่นเหม็นของสารเคมีคละคลุ้งโดยรอบพื้นที่โรงงาน และชุมชนใกล้เคียง จนทำให้ผู้นำชุมชนต้องเร่งประกาศเสียงตามสายเพื่ออพยพชาวบ้าน
แต่การเคลื่อนย้าย หรืออพยพชาวบ้านกลับเต็มไปด้วยอุปสรรค เนื่องจากว่ามีแรงงานต่างด้าวเข้ามาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ผู้นำชุมชนจึงต้องใช้ทั้งรถยนต์ รถกระบะ และรถจักรยานยนต์ ขนทั้งผู้สูงอายุและลูกเด็กเล็กแดงกว่า 50 รายไปพักที่เต็นท์ริมบ่อน้ำดี ที่อยู่ห่างจากชุมชนประมาณ 1 กิโลเมตร และยังให้ประชาชนที่อพยพออกจากพื้นที่ลงลายมือชื่อและหมายเลขเบอร์โทรศัพท์เพื่อประสานในเรื่องของการได้รับผลกระทบ
นอกจากนั้น ยังพบว่าภายในโรงงานได้มีการนำรถดับ จำนวน 1 คันเข้าระงับเหตุ ก่อนที่ทางโรงงานจะประกาศห้ามพนักงานหรือผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่จุดเกิดเหตุุ และยังได้ปิดประตูรั้วด้านหน้าโรงงาน พร้อมห้ามสื่อมวลชนบันทึกภาพ
นายสมคิด แสงสุข สารวัตรกำนัน ต.ท่าตูม เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุเผยว่า ก่อนเกิดเหตุชาวบ้านได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นก่อนจะมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกจากโรงงานเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากช่วงคืนวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่มีสารเคมีรั่วไหลออกจากโรงงานจนทำให้แรงงานชาวพม่า สูดดมสารเคมีจนต้องนำตัวส่งรักษาโรงพยาบาลเอกชน กระทั่งเกิดเหตุซ้ำจนต้องอพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่
เช่นเดียวกับ นายวิลาศ เล็บพยัคฆ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 บอกว่า จากการสอบถามไปยังโรงงานทราบเพียงว่า มีไอสารเคมีมีรั่วไหลออกจากฝาถังจนทำให้พนักงานภายในโรงงานที่ได้รับกลิ่นเกิดอาการเวียนศีรษะ และปวดหัว แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 18 ต.ค.โรงงานไม่แจ้งมายังชุมชนเพื่อให้ทราบ
เบื้องต้น จากการตรวจสอบพบว่าโรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานผลิตสารลดแรงตึงผิวในเครื่องสำอาง โดยมีส่วนประกอบของกรดซัลฟิวริก ซึ่งกรดซัลฟิวริกเป็นวัตถุดิบในการผลิตสารเคมี และยังใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาและยังเป็นตัวปรับสภาพค่าในกระบวนการผลิต นอกจากนั้น ยังใช้เป็นตัวสกัดแรกในการทำความสะอาดชิ้นงานและใช้เป็นสารอิเล็กโตร์ไลต์อุตสาหกรรมเคมี
"สารดังกล่าวสามารถละลายผิวหนังชั้นนอกจนเหลือแต่กระดูกภายใน 3-5 นาทีได้ และหากมีการสูดอากาศที่ปนเปื้อนสารดังกล่าวอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้" ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 กล่าว
หลังเกิดเหตุ น.ส.จุฑามาศ บัวเผื่อน นายอำเภอศรีมหาโพธิ พร้อมด้วยนายโยธิน พงษ์อ้อ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าตูม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภายในโรงงาน พบว่าเป็นโรงที่ 5 แต่ไม่สามารถเข้าไปในภายในได้เนื่องจากยังมีสารตกค้างและกลิ่นยังรุนแรงอยู่ ซึ่งทางโรงงานได้นำพัดลมระบายควัน และใช้ม่านน้ำสกัดกลิ่นเพื่อไม่ให้ฟุ้งกระจายจนกว่าจะมีการระเหยออกหมด
และในเบื้องต้นได้สั่งระงับการผลิตของโรงงานจนกว่าจะหาสาเหตุของเสียงระเบิดรวมทั้งให้ทางโรงงานเร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น รวมทั้งให้รถดับเพลิงเร่งฉีดพ่นน้ำเพื่อเป็นม่านน้ำป้องก้นควันไม่ให้สารเคมีกระจายออกนอกพื้นที่
"เมื่อช่วงเย็นวานนี้เราได้รับแจ้งว่ามีคนงานต่างด้าวได้รับอันตรายจากการสูดดมสารเคมีเข้าไปจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และแพทย์ยังต้องสังเกตอาการ 48 ชั่วโมง ขณะที่อุตสาหกรรมจังหวัดได้สั่งระงับการผลิต ซึ่งในวันจันทร์ และอังคารที่จะถึงนี้จะมีหนังสือไปยังโรงงาน และยังพบว่าโรงงานนี้เพิ่งเปิดดำเนินการได้ไม่ถึง 1 ปี" นายอำเภอศรีมหาโพธิ กล่าว
Visitors: 429,499